น้ำตะไคร้


ตะไคร้ต้นหลังบ้านกำลังงามเลยค่ะ ช่วงฝนตกแบบนี้อะไรๆ ก็ดูงอกงามไปหมดเลยนะคะ ยืนมองผ่านช่องหน้าต่างออกไปอยากจะไปตัดตะไคร้มาซัก 4-5 ต้น นึกอยากทำ น้ำตะไคร้ เอาไว้ดื่ม แต่ไม่กล้าออกไปค่ะฝนตกทั้งวันเลยค่ะวันนี้ ยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ด้วยเลยไม่อยากออกไป ได้แค่มองต้นตะไคร้ตาปริบๆ แล้วก็กลับมานั่งทำงานต่อ (ไม่มีปัญญาลงไป อิอิ) แต่พอเย็นๆ เดินเข้าไปในครัวเห็นมีตะไคร้วางอยู่ในครัว เลยตะโกนถามแม่ไปว่าแม่ไปตัดตะไคร้มาทำอะไร แม่ก็ตอบว่าเห็นมันสวยดี เลยลงไปตัดมาให้เผื่อเราอยากจะเอามาต้มน้ำตะไคร้ (โอ๊ะโอ.. แม่นี่ช่างรู้ใจลูกสาวซะจริงๆ รักแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ อิอิ) ไม่รีรอเลยค่ะ รีบจัดการเอามาทำน้ำตะไคร้ทันทีเลยค่ะ ต้องรีบทำค่ะเดี๋ยวค่ำแสงจะหมด จะไม่ได้รูปขั้นตอนการทำมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ  อ้อ! แต่ก่อนจะลงมือทำ เรามีสรรพคุณของตะไคร้มาฝากด้วยนะคะ ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรไทยมีประโยชน์มากมายเลยคะ่ สรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา นอกจากนั้นการนำตะไคร้มาต้มทำน้ำตะไคร้ ก็จะสามารถช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้จุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ได้ดีอีกด้วยนะคะ เมื่อรู้ถึงสรรพคุณดีๆ อย่างนี้แล้ว ก็อย่ารอช้าค่ะ รีบมาทำ น้ำตะไคร้ เก็บเข้าตู้เย็นเอาไว้ดื่มกันเลยดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ตะไคร้ 4-5 ต้น
น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม (ใครชอบหวานก็ใส่เพิ่มได้นะคะ)
น้ำเปล่า 1 ลิตร

วิธีทำน้ำตะไคร้
– ก่อนอื่นต้องนำต้นตะไคร้มาล้างน้ำให้สะอาด ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง เสร็จแล้วหั่นตะไคร้เป็นท่อนๆ ไม่ต้องละเอียดนะคะ เอาแค่หั่นแฉลบหนาๆ หน่อยก็พอค่ะ

– จากนั้นเอาใส่ลงไปในกระทะ แล้วยกไปตั้งบนเตา เปิดใช้ไฟกลาง

– คั่วตะไคร้จนให้น้ำมันของตะไคร้ออก เราจะไ้ด้กลิ่นหอมๆ ของตะไคร้เวลาเอาไปต้ม ในระหว่างนี้ก็เอาหม้อใส่น้ำยกขึ้นตั้งบนเตาอีกอันนึงค่ะ

– พอน้ำในหม้อเดือดจัด ก็ใส่ตะไคร้ที่เราคั่วแล้วลงไปในหม้อ  ต้มทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้น้ำตะไคร้ออกสีเหลืองอ่อนๆ จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป รอจนน้ำตาลทรายละลายหมดแล้วก็ปิดไฟ

– ตั้งหม้อทิ้งไว้ซักพัก แล้วจึงนำไปกรองกับกระชอนตาถี่ๆ เพื่อแยกตะไคร้ออกจากน้ำ (เรามัวแต่ทำอย่างอื่นไปด้วย เลยตั้งทิ้งไว้จนลืมผ่านไปหลายชั่วโมงกว่าจะเอามากรอง ตะไคร้เลยสีช้ำเลยค่ะ อิิอิ)

– น้ำตะไคร้ที่ได้ก็จะมีสีออกเหลืองๆ ใสๆ แต่กลิ่นห๊อมหอมค่ะ

– ใส่น้ำแข็งลงไปในแก้ว (แต่งด้วยต้นตะไคร้ซักต้นนึง อิอิ)

– ตักน้ำตะไคร้ใส่ลงไปในแก้ว

– เสร็จแล้วค่ะน้ำตะไคร้หอม แสนอร่อยของเรา

ยกไปเสิร์ฟได้เลยค่ะ

หวาน หอม เย็นชื่นใจมากเลยค่ะ ใครชอบดื่มเครื่องดื่มสมุำนไพรประเภทนี้ อย่าลืมเอาไปลองทำกันดูนะคะ ง่ายๆ แต่อร่อยค่ะ

 

คั่วพริกแห้งยังไงไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวน

เรื่องการคั่วพริกแห้งนี่เป็นอะไรที่ไม่ชอบเอามากๆ เลย เชื่อเลยค่ะว่าเป็นกับแม่บ้านหลายๆ คนเลยทีเดียว  คั่วพริกแห้งทีไรกลิ่นฉุนๆ พุ่งจี๊ดเข้าจมูก เป็นต้องจามติดต่อกันหลายๆ ครั้งทุกที บางทีก็ไม่ใช่แต่เฉพาะคนที่ลงมือคั่วเท่านั้นที่จาม ยังเผื่อแผ่ไปถึงคนใกล้ชิดหรือแม้แต่เพื่อนบ้านใกล้เคียงอีกด้วย แต่ต่อไปนี้จะไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีคั่วพริกที่ไม่ให้พริกส่งกลิ่นรบกวนใครๆ วิธีทำก็ง่ายๆ ค่ะเพียงแค่ก่อนที่เราจะเอาพริกใส่ลงไปในกระทะ ให้เอาเศษผ้าที่สะอาดจุ่มลงไปในน้ำมันหมู แล้วนำมาทาก้นกระทะให้ชุ่มพอสมควร แล้วนำไปตั้งบนเตาให้พออุ่นๆ จึงใส่พริกแห้งลงไปคั่ว แล้วคุณจะพบว่าการคั่วพริกของคุณจะไม่ส่งกลิ่นฉุนๆ ออกมาให้รำคาญกันอีกแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะใช้ไฟแรงในการคั่วรับรองว่าไม่ส่งกลิ่นรบกวนอีกแน่นอน แถมยังทำให้เวลาเอาพริกไปโขลกผงพริกที่แหลกก็จะไม่คลุ้งขึ้นมาเข้าจมูกคนโขลกอีกด้วยค่ะ ยังไงเวลาจะคั่วพริกทุกครั้งอย่าลืมนำ วิธีคั่วพริกที่จะไม่ส่งกลิ่นรบกวน นี้ไปลองใช้กันดูนะคะ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

สะตอผัดกุ้ง

แย่จังเลยค่ะเมื่อวานรับปากกับเพื่อนๆ ไ้ว้ว่าจะทำ สะตอผัดกุ้ง มาให้ทาน แต่สุดท้ายแม่ครัวก็แอบเบี้ยวหนีเที่ยวทั้งวันเลยค่ะ สำหรับเมนูสะตอผัดกุ้งวันนี้แม่ครัวขอออกตัวก่อนนะคะว่าเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก อิอิ ก่อนที่จะลงมือทำสะตอผัดกุ้งก็ขอเล่าที่มาขอสะตอก่อนค่ะ รู้มั๊ยคะว่าสะตอทั้งหมดนี้ต้องแลกมากับหยาดเหงื่อของแม่ครัวเลยค่ะ เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อนมีสาวน้อยมาตะโกนแหกปากร้องเรียกอยู่หน้าบ้าน พอเราโผล่หน้าออกไปดูเธอก็รีบบอกว่า “น้องเนสเอาสะตอมาฝากค่ะ” เราก็เลยเดินออกไปเปิดประตูรั้วให้ เราถามว่าจะเข้ามาในบ้านมั๊ยพร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อจะรับฝักสะตอที่คุณเธอถือมา เธอรีบเหวี่ยงมือไปซ่อนด้านหลังแล้วบอกว่า “ต้องเล่นตีแบดกับน้องเนสก่อนถึงจะเอาสะตอให้” (ร้ายนะยะยายตัวเล็ก หาเรื่องให้ชั้นเหนื่อยอีกแล้วหรือนี่ ยายคนนี้ชอบมาเล่นตีแบดที่บ้านเราอยู่บ่อยๆ แต่เราขี้เกียจที่จะต้องเล่นตีกับเธอ เพราะมาเล่นบ่อยมากจนกล้ามเราเริ่มขึ้นแล้ว เรารู้สึกได้ว่าแขนเราใหญ่ไม่เท่ากันแขนด้านขวาจะมีกล้ามใหญ่กว่าด้านซ้ายมาก เวลาเธอมาเล่นติดๆ กันหลายวัน เรามักจะแกล้งบอกไปว่าวันนี้เราไม่สบายมั่งโน่นนี่นั่นแล้วแต่จะคิดได้ แต่วันนี้เธอเอาสะตอมาล่อ ไม่เล่นไม่ได้แล้วมิงั้นอดกินผัดสะตอกันพอดี ถ้าไม่เห็นแก่ของกินไม่เล่นนะเนี่ย อิอิ) เราได้สะตอมาหลายวันแล้วก็ไม่มีเวลาเอามาทำซักที วันนี้เลยต้องรีบเอามาทำเพราะฝักสะตอเริ่มเหี่ยวแล้วค่ะ มาค่ะมาเข้าครัวทำ สะตอผัดกุ้ง ทานกันดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
สะตอ 120 กรัม
กุ้งขาวใหญ่ 10 ตัว
พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด
พริกขี้หนูแดง 8-9 เม็ด
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำสะตอผัดกุ้ง
– ก่อนอื่นเราต้องนำฝักสะตอมาแกะเอาเม็ดสะตอออกมาก่อน (ทำยากมากเพราะไม่เคยทำเลยจริงๆ )

– จากนั้นก็ลอกเปลือกสีขาวๆ ออกอีกทีนึง เสร็จแล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที (เหตุที่ต้องแช่น้ำก่อนเพราะว่าเม็ดสะตอขอเราเริ่มเหี่ยวแล้ว เลยต้องแช่น้ำให้เม็ดสะตอตึงตัวเหมือนตอนยังสดๆ อยู่)

– ทีนี้ก็นำเม็ดสะตอมาผ่าครึ่งเตรียมไว้

– กุ้งก็นำมาปอกเปลือกออก ตัดหัว ไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก เสร็จแล้วล้างน้ำแล้วซับตัวกุ้งให้หมาดๆ เตรียมไว้

– ต่อไปเราก็หันมาตำน้ำพริกสำหรับทำผัดสะตอกันค่ะ วันนี้เราเลือกทำสะตอผัดน้ำพริกกะปิ เลยต้องมาตำน้ำพริกกะปิกันก่อน โดยเริ่มจากหั่นพริกชี้ฟ้าเป็นท่อนๆ ใส่ลงไปในครกพร้อมกับพริกขี้หนูและกระเทียม ตำทุกอย่างให้ละเอียด

– ใส่กะปิตามลงไปตำเบาๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากันพักไว้ก่อน

– ทีนี้เราก็นำกระทะใส่น้ำมันยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนก็นำกุ้งลงไปผัดให้กุ้งพอสุกทั้งสองด้าน

– เสร็จแล้วตักใส่จานพักไว้ก่อน

– ต่อไปก็มาึถึงขั้นตอนการทำผัดสะตอกันแล้วค่ะ เราจะใช้กระทะใบเดิมกับตอนที่ใช้ทอดกุ้ง เพียงแต่เรา้ต้องดูว่าน้ำมันในกระทะเหลือพอจะผัดได้หรือเปล่า ถ้าน้อยไปก็ใส่เพิ่ม ถ้ามากไปก็ตักออก กะว่าเราจะใช้ซักประมาณ 2 ช้อนโต๊ะก็พอค่ะ
– นำกระทะขึ้นตั้งไฟ พอร้อนก็ใส่น้ำพริกกะปิลงไปผัด ระหว่างที่ผัดก็ดูด้วยว่าน้ำพริกกะปิของเราแห้งไปหรือเปล่า ถ้าแห้งไปก็เติมน้ำซุปลงไปด้วยเล็กน้อย ผัดต่อจนหอม

– ใส่กุ้งที่เราเตรียมไว้ลงไปผัด

– ตามติดมาด้วยสะตอค่ะ ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และซอสหอยนางรม ผัดต่อไปซักครู่ไม่ต้องผัดนานนะคะ ผัดเอาแค่ให้กลิ่นเหม็นเขียวของสะตอหายก็พอค่ะ เสร็จแล้วปิดไฟ

ตักสะตอผัดกุ้งใส่จานยกเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับไข่ต้มยางมะตูม ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

เป็นไงคะผลงานการทำผัดสะตอครั้งแรกของเราพอจะใช้ได้หรือเปล่าเอ่ย

ส่วนรสชาติแม่ครัวขอคอนเฟิร์มว่าอร่อยม๊าก กินไปน้ำตาเล็ดไปด้วย อิอิ

ผลงานครั้งแรกของสาวเหนือริทำผัดสะตอกุ้งสด

อ้ำๆๆ อ้าปากค่ะ เดี๋ยวจะป้อน 555