ผัดขนมจีน


เมื่อวานซื้อขนมจีนมาเยอะมาก ตั้งใจเอามากินกับ แกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง แต่เรากินคนเดียวไม่มีใครช่วยกิน คนอื่นเค้ากินกับข้าวสวยกันหมดเลย พอเส้นขนมจีนเหลือเราจะเอาทิ้งก็เสียดาย วันนี้เลยเอามาทำเป็นผัดขนมจีนทานเป็นของว่าง ผัดขนมจีน เป็นอาหารล้านนาแต่ดั้งเดิม ซึ่งคนเหนือจะเรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “ผัดหมี่ขนมจีน” เค้าจะนิยมเอาผัดขนมจีนมากินกับแคบหมูและผักกาดดอง หากใครอยู่เชียงใหม่ก็จะหากินได้ง่ายมาก โดยเฉพาะถนนคนเดินมีขายเกือบทุกที่ แต่หากใครไม่ได้มาเชียงใหม่แต่อยากจะลองกิน สงสัยคงจะต้องลงมือทำกินเองแล้วค่ะ ไหนๆ วันนี้สาวเหนือก็จะทำผัดขนมจีนกินอยู่แล้ว จะใจดำไม่เอามาฝากเพื่อนๆ ก็คงจะกระไรอยู่นะคะ  เดี๋ยวจะผิดคอนเซปสาวเหนือสวยและก็ใจดี 555 งั้นตอนนี้มาเข้าครัวลงมือทำ ผัดขนมจีน กันเลยดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
เส้นขนมจีน 500กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หมูแผ่น 2 ชิ้น
กระเทียม 1 หัว
ซีอิ้วขาว ช้อน 1โต๊ะ
ซีอิ้วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำผัดขนมจีน
– เรามาเริ่มจากใส่ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำหวาน น้ำตาลทราย และเกลือป่น ลงไปในชาม เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

– ใส่เส้นขนมจีนลงไปในชาม

– คลุกเส้นขนมจีนกับส่วนผสมให้เข้ากัน จนเส้นขนมจีนเป็นสีน้ำตาลทั่วถึงกัน พักไว้ก่อน

– ต่อไปก็นำกระเทียมมาแกะกลีบลอกเปลือกออกบางส่วน ทุบให้แตกแล้วสับหยาบๆ เราใช้กระเทียมไทยกลีบเล็กเราจึงใส่ครกตำให้พอแตกค่ะ ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้

– ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีให้ไข่พอแหลก นำกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนก็เทไข่ลงไป จับด้ามกระทะกรอกไข่ไปมาให้เป็นแผ่น ทอดจนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น

– จากนั้นจึงนำไข่มาหั่นเป็นเส้นฝอยใส่ถ้วยเตรียมไว้

– ส่วนหมูแผ่นเราก็เพียงนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวบซักครู่แค่พอร้อน นำออกมาหั่นเป็นเส้นๆ ใส่ถ้วยเตรียมไว้ (หรือใครจะเปลี่ยนเป็นกุนเชียงก็ได้นะคะ)

– ต่อไปเราก็นำกระทะที่เจียวไข่ใบเดิมยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันเพิ่มลงไปอีกเล็กน้อย พอร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม

– ใส่เส้นขนมจีนที่เราคลุกเตรียมไว้ลงไปผัด

– ผัดจนเส้นขนมจีนแห้ง ปิดไฟ

ตักผัดขนมจีนใส่จานตกแต่งด้วยเครื่องเคียง ไข่เจียว หมูแผ่น แคบหมู พอดีเราไม่มีผักกาดดอง เลยใส่แครอทซอยลงไป เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหาร

ทีนี้อาหารว่างของชาวเหนือก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ น่าตาพอใช้ได้ใช่มั๊ยคะ แ่ต่นิสัยจะดีอย่างหน้าตาหรือเปล่า เพื่อนๆ ก็ต้องลองคบดู อิิอิ

ถือได้ว่าเป็นอาหารที่ทำได้ง่ายๆ อีกหนึ่งเมนู ซึ่งเหมาะกับวันสบายๆ ที่เพื่อนๆ ไม่อยากออกไปหาอะไรทานนอกบ้าน ลองทำทานกันดูนะคะ

แกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง


หลายวันมานี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนไม่ค่อยหลับเลยรู้สึกปวดเนื้อปวดตัว เดี๋ยวนี้พยายามที่จะไม่นอนกลางวันแล้ว สำหรับเวลานอนตอนกลางคืนก็พยายามเข้านอนหลัง 5 ทุ่ม นอนพลิกไปพลิกมาหาท่านอนยังไงก็ไม่ถูกใจซักที บางทีนอนไปนานๆ จนคิดว่าตัวเองน่าจะหลับแล้ว แต่กลับมีความรู้สึกว่ายังมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวภายในห้องลางๆ อยู่เลย แถมยังปวดเมื่อยเนื้อตัวเหมือนตอนที่เราจะเป็นประจำเดือน รู้สึกกระสับกระส่ายอยากให้เช้าเร็วๆ (สงสัยจะเข้าวัยทองแหง๋ๆ เลยช๊าน 555) คงจะต้องหาเวลาไปพบหมอซะแล้วมั๊งเรา แต่ตอนนี้เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวจะมีคนว่าพอเริ่มแก่ก็ชักเริ่มขี้บ่น อิอิ วันนี้เราเข้าครัวทำอาหารแต่เช้ามืดเลย เมนูอร่อยสำหรับวันนี้ก็คืำอ แกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง (ของโปรดเราเลยนะเนี่ย) ความจริงมีคนอื่นเค้าอยากจะให้ทำแกงคั่วปลาดุกใบชะพลู แต่เราไม่ชอบ เราอยากทำ แกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง ใครจะทำไม อิอิ (ให้รู้ซะมั่งว่าบ้านนี้ครายหญ่ายยยยยยยยยย) มาค่ะเรามาเข้าครัวทำแกงคั่วปลาดุกทานกันดีกว่า

สิ่งที่ต้องเตรียม
ปลาดุก 2 ตัว
หน่อไม้ดอง 1 ถ้วย
กะทิ 250 มล.
นมสด 200 มล. (ในรูปนมหายไปหนายไม่รู้..สงสัยลืมเอามาถ่าย โก๊ะจิงๆๆ)
น้ำพริกแกงคั่ว 100 กรัม
โหระพาเด็ดใบ 1 ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก 5-6 ใบ
พริกเขียว 1 เม็ด
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

วิธีทำแกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง
– ในการทำอาหารของเราทุกครั้ง เราชอบที่จะโขลกน้ำพริกแกงเองมากกว่า ที่ต้องไปซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จมาทำ อย่างวันนี้เราก็จะลงมือโขลกน้ำแกงเอง โดยเริ่มจากนำพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ผิวมะกรูด พริกไทยดำ กระเทียม หอมแดง เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกโขลกให้ละเอียด (พยายามใส่ขมิ้นให้เยอะๆ เข้าไว้เพราะเราทำน้ำพริกแกงเหมือนกับน้ำพริกแกงปักษ์ใต้ค่ะ)

– พอโขลกน้ำพริกละเอียดดีแล้ว ก็ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้เลยค่ะ (นี่ถือว่าละเอียดที่สุดแล้ว ขืนมากกว่านี้แขนหลุดแน่นอน 555)

– ส่วนปลาดุก เราซื้อปลาดุกที่เค้าหั่นเป็นแว่นๆ มาจากตลาดเรียบร้อยแล้ว เลยไม่ต้องลงมือทำเอง  เราทำเพียงแค่นำมาปลาดุกใส่ลงไปในชาม ตักเกลือป่นใส่ลงไปประมาณ 1 ช้อน คลุกให้เข้ากันแล้วนำไปล้างน้ำ ก็จะช่วยลดเมือกคาวได้ค่ะ แต่จริงๆ แล้วเรามีวิธีล้างเมือกปลาอีกวิธีที่เด็ดกว่า เพียงแต่ว่าเราหาแป้งมันใครครัวไม่ได้ เพราะหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันรู้ตัว เลยเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้แทน ถ้าใครอยากรู้ วิธีล้างเมือกปลา ได้อย่างชะงัด ก็ตามลิงค์เ้ข้าไปดูเองนะคะ
– เมื่อล้างปลาดุกเรียบร้อยแล้วก็ใส่ชามพักไว้ก่อน

– หน่อไม้ดองเราใช้หน่อไม้ดองที่แม่ดองเองกับมือ นำเข้ามาจากจังหวัดน่าน 555 แต่เราต้องนำหน่อไม้ไปต้มทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีก่อน เสร็จแล้วก็บีบน้ำให้หมาด ใส่ถ้วยเตรียมไว้

– เมื่อทุกอย่างพร้อมเราก็มาลงมือแกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดองกันเลยดีกว่าค่ะ นำกะทะใส่ลงไปในหม้อประมาณ 2 ทัพพี ตั้งทิ้งไว้ให้เดือดจัดๆ (กะทิเป็นกล่องจะรอให้แตกมันคงจะยากนิดนึงค่ะ)

– ใส่น้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม

– จากนั้นก็ใส่หน่อไม้ดองตามลงไปผัด

– ผัดหน่อไม้ดองกับน้ำพริกแกงประมาณ 5 นาทีให้เข้ากัน

– ใส่กะทิส่วนที่เหลือ และนมสดลงไป

– ตั้งทิ้งไว้ให้เดือด จึงใส่ปลาดุกลงไปในหม้อ ยังไม่ต้องคนนะคะ

– พอปลาดุกสุก ก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน ใส่โหระพา ใบมะกรูดฉีก และพริกเขียวหั่นแฉลบ (ถ้าใครมีพริกแดงใช้พริกแดงดีกว่า แต่บ้านเราอนาถาหาพริกแดงไม่ได้ เลยใช้พริกเขียวแทน)

– คนทุกอย่างให้เข้าักัน ปิดไฟ

ตักแกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดองใส่ถ้วย จัดแต่งด้วยโหระพา (แอบเอาพริกขี้หนูสีแดงเม็ดเล็กๆ มาเพิ่มสีสันให้กับจานอร่อยด้วย อิอิ)

เสร็จแล้วก็ยกถ้วยออกไปเสิร์ฟได้เลยค่ะ

จานนี้เป็นข้าวสวยร้อนๆ ทานกับแกงคั่วปลาดุกหน่อไม้ดอง อร่อยเลิศ

ส่วนเชฟสาวสวยเลือกที่จะกินกับเส้นขนมจีน เส้นเล็กๆ ขาว ไม่ว่าจะเลือกกินแบบไหนก็อร่อยได้เหมือนกัน ถ้าไม่เชื่อขอท้าให้ลอง 555

ขนมจีนแกงไก่


วันอาทิตย์เป็นวันหยุดพักผ่อน ที่หลายๆ คนเลือกที่จะอยู่บ้านกับครอบครัว แทนที่จะออกไปเที่ยวนอกบ้าน การหากิจกรรมเล็กๆ ทำกันในครอบครัวเพียงแค่ใช้เวลาหนึ่งวันต่อสัปดาห์  ไม่ว่าจะจัดสวน ปลูกต้นไม้ ตัดแต่งกิ่ง ตัดหญ้า ทำความสะอาดบ้าน หรือแม้การนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นแบบสบายๆ ในเมื่อเราเลือกจะอยู่กับครอบครัววันหยุดแบบนี้แล้ว อย่าลืมที่จะหาเมนูง่ายๆ มาทำทานกันเองด้วยล่ะ วันนี้เราเลยอยากนำเสนอเมนู ขนมจีนแกงไก่ ซึ่งเป็นเมนูที่ทำง่ายๆ สะดวก สามารถที่จะกินกันได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กๆ ก็อาจจะลดปริมาณของความเผ็ดลงไปบ้าง แค่นี้เรา็ก็จะมีอาหารอร่อยๆ ที่ทานกันแบบอิ่มท้องในวันสบายๆ เช่นนี้ ตอนนี้เรามาเข้าครัวทำเมนู ขนมจีนแกงไก่ ทานกันเลยดีกว่าค่ะ

สิ่งที่้ต้องเตรียม
เนื้อไก่ 500 กรัม (เราเลือกใช้ส่วนที่มีกระดูกติดด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการกิน)
กะทิ 500 มล.
น้ำพริกแกงเผ็ด 80 กรัม
มะเขือเปราะ 7 ลูก
มะเขือพวง 1 ถ้วย
โหระพาเด็ดใบ 1 ถ้วย
ใบมะกรูด 4-5 ใบ
พริกเขียว 1 เม็ด (ใครมีพริกแดงใช้พริกสีแดงนะคะ เราไม่มีเลยใช้พริกเขียวแทนค่ะ)
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมจีนแกงไก่
– เรามาเริ่มจากการนำไก่ไปล้างน้ำ แล้วนำมาสับเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ

– มะเขือเปราะ นำมะเขือมาล้างน้ำ แล้วผ่าเสี้้ยว หรือจะผ่ายังไงก็ได้แล้วแต่ชอบ เสร็จแล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้เพื่อจะทำให้มะเขือไม่ดำ

– มะเขือพวงก็เด็ดก้านทิ้งไป แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาดใส่ถ้วยเตรียมไว้

– โหระพาก็เลือกเด็ดเอาเฉพาะใบๆ และยอดอ่อน ล้างน้ำเตรียมไว้

– พริกเขียวก็หั่นแฉลบ ส่วนใบมะกรูดก็ฉีกเอาก้านตรงกลางทิ้ง

– ทีนี้เราก็มาลงมือโขลกน้ำพริกแกงเผ็ดกันเลยดีกว่าค่ะ ส่วนประกอบของน้ำพริกแกงเผ็ดก็จะมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูดซอยพริกไทยดำ หอมแดง กระเทียม เกลือป่น และกะปิ นำทุกอย่างใส่ลงไปในครกหินตำให้ละเอียดเราก็จะได้น้ำพริกแกงเผ็ด ที่จะใช้ทำแกงเผ็ดไก่แล้วค่ะ

– น้ำพริกแกงเผ็ดที่เราโขลกเองก็จะได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ แต่หากใครขี้เกียจที่จะโขลกเองก็หาซื้อน้ำพริกแกงเผ็ดมาจากซุปเปอร์มาเก็ตก็ได้ค่ะ (ขอแนะนำยี่ห้อ น้ำใจ จะเป็นน้ำพริกแกงที่รสชาติดีที่สุดที่เราเคยลองมา) หากเป็นน้ำพริกแกงเผ็ดจากตลาดสดทั่วไป ให้เอามาตำเพิ่มโดยใส่พริก และกะปิเพิ่มอีกนิดหน่อย ถึงจะใช้ได้ค่ะ

– จากนั้นก็ตักกะทิส่วนที่อยู่ด้านหน้าสุดซึ่งจะมีลักษณะข้นๆ ที่เราเรียกว่าหัวกะทิใส่ลงไปในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ (ถ้าใครคั้นกะทิจากมะพร้าวสดๆ ก็จะได้หัวกะทิกับหางกะทิแยกกัน เราใช้แบบกล่องเลยต้องตักส่วนที่อยู่หน้าสุด จึงจะได้กะทิที่มีความเข้มข้นค่ะ) ปล่อยให้กะทิเดือดจัดจนแตกมัน จึงใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป

– ผัดน้ำพริกแกงเผ็ดกับกะทิให้หอม

– จากนั้นก็ใส่เนื้อไก่ตามาลงไปผัด ระหว่างนี้ถ้าน้ำแห้งไปก็ตักน้ำล้างครกใส่ลงไปเพิ่มได้อีกเล็กน้อยค่ะ

– ผัดจนเนื้อไก่ตึงตัว

– พอเนื้ำอไ่ก่ตึงตัวแล้ว เราก็ใส่กะทิส่วนที่เหลือลงไปทั้งหมดเลย

– ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ รอให้เดือดอีกรอบจึงใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป

– พอไก่สุก ใส่โหระพา พริกหั่นแฉลบ และใบมะกรูดฉีกลงไป

– คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไปอีกซักครู่ ปิดไฟ

ตักแกงเผ็ดไก่ใส่ถ้วยเตรียมเสิร์ฟค่ะ

น้ำพริกแกงเผ็ดที่เราโขลกเองจะมีรสชาติเข้มข้น อร่อย แต่ทำไมสีมันไม่แดงเหมือนกับน้ำพริกแกงที่เราซื้อก็ไม่รู้

ทีนี้ก็เตรียมเส้นขนมจีนจัดใส่จาน

ยกจานเส้นขนมจีนออกไปทานกับแกงเผ็ดไก่ได้แล้วค่ะ

เป็นเมนูง่ายๆ แต่อร่อยดีใช่มั๊ยคะ

หากใครที่พลาดจากอาทิตย์นี้ ไม่เป็นไรค่ะ เก็บสูตรเอาไว้ทำในอาทิตย์หน้าก็ยังได้ค่ะ