คั่วเห็ดลม


ไม่ได้ทำอาหารมา 2 วันแล้ว มีธุระปะปังเยอะแยะไปหมด วันนี้เลยรื้อเอาเมนูอาหารเก่าๆ ที่ทำไว้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ซึ่งยังมีหลงเหลืออีกหลายเมนูเลยค่ะ เพราะปกติเราจะทำวันนึงก็หลายอย่าง แต่จะเอามารีวิวแค่เมนูเดียว ส่วนเมนูอื่นๆ ก็เก็บไว้เป็นสต๊อกเผื่อช่วงไหนไม่ได้ทำก็จะรื้อเอาออกมา อย่างวันนี้ก็เหมือนกันรื้อๆ คุ้ยๆ เอาเมนูเก่าๆ มารีวิว มันมีเยอะมากเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาเมนูไหนก่อนดี สุดท้ายก็เลือกได้ เป็นเมนูที่หากินได้ยากมาก ปีนึงก็จะได้กินแค่ไม่กี่เดือน เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของคนเหนือ นั่นก็คือ เมนูคั่วเห็ดลม (จริงๆ ก็คือการนำมาผัดนั่นแหล่ะ แต่ทำไมเค้าเรียกว่าคั่วเห็ดลมก็ไม่รู้ บรรพบุรุษเค้าว่าไงมา เรา็ก็เรียกงั้นก็แล้วกันนะคะ อิอิ) ใครอยากรู้จัก คั่วเห็ดลม เชิญเข้ามาดูในครัวกันเลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
เห็ดลมสด 300 กรัม
พริกชี้ฟ้า 3 เม็ด
ชะอม 5-6  ยอด
ใบชะพลู 5-6 ใบ
กะปิ 1 ช้อนชา
กระเทียมไทย 1 หัว
หอมแดง 2 หัว
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำคั่วเห็ดลม
– นำเห็ดลมมาตัดเอาโคนส่วนที่แข็งๆ และสกปรกออกไป

– นำไปล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งเห็ดทิ้งไว้ให้หมาด แล้วซอยหยาบๆ เตรียมไว้ (ดังรูปด้านล่างค่ะ)

– นำใบชะอมกับใบชะพลู ไปล้างน้ำ

– เด็ดชะอมในส่วนที่เป็นยอดอ่อนและใบอ่อน ใบชะพลูล้างน้ำแล้วหั่นให้ได้ประมาณ 3 ท่อน

– ละลายกะปิกับน้ำสะอาดเล็กน้อยในถ้วยใบเล็ก หั่นแฉลบพริกชี้ฟ้าใส่ลงไปในถ้วยกะปิ

– กระเทียมทุบแล้วสับหยาบๆ หอมแดงซอยบางๆ เตรียมไว้

– นำกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนใส่้กระเทียมและหอมแดงลงไปผัดให้หอม (ถ้าใครชอบแบบใส่เนื้อหมูก็ใส่ลงไปในตอนนี้เลยค่ะ เราไม่ชอบเลยไม่ใส่)

– ใส่พริกชี้ฟ้าและกะปิตามลงไป ผัดซักครู่

– ใส่เห็ดลมลงไปผัด (ถ้าใครไม่ได้ผึ่งเห็ดให้หมาดก่อน เวลาจะใส่เห็ดลงไปผัดควรจะบีบเอาน้ำที่ติดมากับเ็ห็ดออกไปบ้าง)

– คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม และซีอิ้วขาว ผัดซักครู่จะสังเกตเห็นว่าเห็ดจะเริ่มคายน้ำออกมา ยิ่งถ้าเราไม่บีบน้ำออก น้ำในหม้อจะเจิ่งนองเชียวค่ะ

– พอเห็ดสุกใส่ชะอม และชะพลูลงไป ผัดให้เข้ากัน

– พอผักสุกปิดไฟ

ตักคั่วเห็ดลมใส่จานยกเสิร์ฟ

คั่วเห็ดลมนี่ต้องกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ แบบชาวเหนือ อร่อยอย่าบอกใครเชียวค่ะ (เห็นแล้วอยากกินอีกค่ะ  เอาไว้พรุ่งนี้ออกไปซื้อที่ตลาดใกล้บ้านดีกว่า อิอิ)

ข้าวเหนียวมะม่วง

ตื่นไปเดินซื้อของที่ตลาดตั้งแต่เช้า ได้ของสดของแห้งมาเพียงพอสำหรับ 1สัปดาห์นี้ (โฮะๆ เล่นจ่ายตลาดอาทิตย์ละครั้งเลยค่ะ ขี้เกียจตื่นเช้าทุกวัน ) เหตุผลของการไปตลาดเช้านี้็ก็อยู่ที่เมนูของว่างวันนี้นั่นเอง เพราะเมื่อวานมีคนบ่นๆ ว่าอยากกิน ข้าวเหนียวมะม่วง ก่อนจะออกไปตลาดเราก็เลยแช่ข้าวสารทิ้งไว้่ก่อน จากนั้นก็ออกไปหาซื้อมะม่วงสุกและมะพร้าวกันค่ะ พอกลับจากตลาดปุ๊บเราก็รีบทำอาหารสำหรับมื้อเช้ากินกันก่อน พออิ่มหนำสำราญใจแล้วถึงได้ลงมือทำข้าวเหนียวมะม่วงต่อ ปกติเวลาทำข้าวเหนียวมะม่วงเราจะแค่กะๆ เอาว่าอย่างไหนต้องใช้เท่าไหร่ แต่วันนี้ต้องการจะทำมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูเลยต้องตวงทุกอย่างให้เป๊ะ ถ้าอยากรู้ว่าเราจะทำ ข้าวเหนียวมะม่วง ยังไงก็ต้องตามเข้าครัวมาเลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
มะม่วงสุก 3 ลูก
ข้าวเหนียว 500 กรัม (เป็นข้าวสารก่อนนำไปแช่น้ำ)
มะพร้าวขูด 500 กรัม
สารส้มป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 200 กรัม
เกลือป่น 2/3 ช้อนชา

วิธีทำข้าวเหนียวมะม่วง
– เริ่มจากนำข้าวสารมาคัดเลือกเอาเศษหินและข้าวเปลือกที่แอบปนมาออกให้หมด ล้างน้ำให้เศษฝุ่นออกแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ ตักสารส้มใส่ผสมลงไปด้วย ใช้มือคนให้เข้ากันพักทิ้งไว้ค้างคืน หรืออาจจะประมาณ 3-4 ชั่วโมง (เราแช่แค่ 4 ชั่วโมงเองค่ะ)
– จากนั้นนำข้าวเทใส่หวด แล้วล้างน้ำเปล่า เทใส่ผ้าขาวบางที่วางบนรังถึง ตลบผ้าขาวบางปิดข้าวให้มิด นึ่งทิ้งไว้จนกว่าข้าวจะสุก ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลานึ่งเท่าไหร่ก็ใช้ส้อมจิ้มขึ้นมาชิมซัก 3-4 เม็ดดู ถ้าข้าวนุ่มไม่แข็งเป็นไตก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ
– ระหว่างที่รอข้าวเหนียวนึ่งให้สุก เราก็หันมาคั้นน้ำกะทิกันค่ะ เราคั้นน้ำกะทิได้ประมาณ 2 ถ้วยค่ะ (ุ600 มล.) เราตักแบ่งออกมาประมาณ 100 มล. สำหรับนำไปทำน้ำกะทิราดหน้าข้าวเหนียวมะม่วง
– ส่วนกะทิที่เหลือเราก็ใส่ลงไปในหม้อ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน

– ตั้งทิ้งไว้แค่พอให้น้ำกะทิเดือดปุดๆ เบาๆ ก็พอ อย่าตั้งทิ้งไว้นาน เดี๋ยวกะทิจะแตกมันซะก่อน จากนั้นยกลงพักไว้

– พอข้าวเหนียวสุกแล้ว ก็ยกลงเทใส่ชาม ใช้ไม้พายคนข้าวให้ไอร้อนระเหยออกไปบ้าง ไม่งั้นข้าวจะแฉะ

– ทีนี้เราก็รีบเทน้ำกะทิที่เตรียมไว้ลงไปบนข้าวได้เลย เสร็จแล้วปิดฝาไว้ แล้วให้นำหม้อข้าวเหนียวไปตั้งบนไฟอ่อน ๆ จับหูหม้อหมุนไปรอบ ๆ ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงยกลง ปล่อยให้ระอุทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที (นี่เป็น วิธีการมูลข้าวเหนียวที่ให้เก็บไว้ได้นาน โดยไม่บูดง่ายค่ะ)

– พอเปิดออกมาก็จะพบว่าน้ำกะทิแห้งไป และข้าวเหนียวจะดูดน้ำกะทิหมดจนข้าวพองตัว แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับวิธีการมูลข้าวเหนียว

– สำหรับหัวกะทิที่เราตักแบ่งไว้ ก็เทใส่หม้อใบเล็ก ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย เอาแค่พอเค็มปะแล่มๆ ยกขึ้นตั้งไฟ พอกะทิร้อน ก็ตักแป้งข้าวเจ้าละลายน้ำใส่ลงไป คนให้เข้ากัน พอเดือดปุดๆ เบาๆ ก็ปิดไฟยกลงจากเตา เราก็จะได้น้ำกะทิสำหรับราดลงบนหน้าข้าวเหนียวมะม่วงแล้วค่ะ

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตักข้าวเหนียวมูลใส่ลงไปในจาน ปอกมะม่วงสุกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ วางลงบนจานข้าวเหนียว เหยาะหน้าข้าวเหนียวด้วยน้ำกะทิ  ยกเสิร์ฟกันได้เลยค่ะ

ถ้ามีถั่วทองด้วยก็น่าจะดี พอดีเราลืมซื้อกลับมาด้วย เลยไม่ได้ใส่

เพียงง่ายๆ แค่นี้ก็อิ่มอร่อยกันได้ทั้งบ้านแล้วค่ะ นอกจากนั้นยังอิ่มอร่อยไปถึงข้างบ้านด้วยเลยค่ะ อิอิ

จัดมาแบบซูมๆๆๆๆ

 

คะน้าปลาเค็ม


วันนี้ตื่นสายเลยต้องมาแนวง่ายๆ อีกแล้วค่ะ นี่ ขนาดว่าเป็นเมนูง่ายๆ แล้วนะกว่าจะได้ทานข้าวเช้าก็ปาไปเกือบ 10 โมงเลยเชียว วันนี้เราทานข้าวต้มกุ๊ยกันค่ะ เลยได้ลงมือทำแค่อย่างเดียวคือ คะน้าปลาเค็ม นอกนั้นก็เป็นหมูหยอง หมูแผ่น หอยแมลงภู่แห้งทอด และปลากรอบ  กินกันตายกันไปก่อน มื้อต่อไปค่อยออกไปหากินนอกบ้านกัน คะน้าที่มีก็ซื้อมาเก็บเข้าตู้เย็นหลายวันแล้ว ต้องรีบเอามาใช้ก่อนไม่งั้นเสียของ  ตอนทำอาหารก็รีบลุกลี้ลุกลน ไหนจะต้องทำอาหารไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย นั่นก็ว่ายากแล้วนะ แต่วันนี้ยังมีคุยโทรศัพท์ไปด้วยอีกตะหาก (จะขอวางสายก็ไม่ได้เกรงใจปลายสายเค้าค่ะ เพราะเป็นความผิดของเราเองที่ดันตื่นสาย นี่เลยไม่ใช่เวลามาทำอาหาร มันเป็นเวลาทำงาน เพราะงั้นเลยต้องทำงานไปด้วยทำอาหารไปด้วย อิอิ) คะน้าปลาเค็มที่ออกมาเกือบจะกินไม่ได้แล้วค่ะ เพราะปลาเค็มเกือบไหม้เลย อิอิ มาดูเราทำผัด คะน้าปลาเค็ม กันเลยดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
คะน้า 3-4 ต้น
ปลาอินทรีเค็ม 1 ชิ้น
พริกขี้หนู 4 เม็ด
กระเทียม 2 หัว
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำซุปเล็กน้อย

วิธีทำคะน้าปลาเค็ม
– เริ่มจากนำต้นคะน้ามาล้างน้ำให้สะอาด ตัดเอาใบแก่ๆ ทิ้งไป เลาะเอาใบอ่อนและยอดออกมาตัดเป็นท่อนๆ ส่วนต้นและก้านก็ปอกเปลือก หั้นเฉียงๆ เตรียมไว้

– กระเทียมบุบพอแตก ส่วนพริกขี้หนูก็ใส่ครกโขลกเบาๆ แค่พอแตก (ไม่กล้าทุบกลัวกระเด็นเข้าตา เพราะเคยมีประสบการณ์โหดมาแล้วค่ะ ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้เป็นวันๆ เลยค่ะ)

– กระทะใ่ส่น้ำมันยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนนำปลาเค็มลงไปทอด ทอดไฟอ่อนๆ ให้สุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน

– พอปลาเค็มทอดได้ที่แล้วก็ใช้ทัพพียีๆ ปลาเค็มให้แหลก

– จากนั้นใส่กระเทียมลงไปผัด (ขั้นตอนนี้แหล่ะค่ะที่เป็นปัญหา เกือบจะทำให้คะน้าปลาเค็มของวันนี้กินไม่ได้ เหตุเพราะคุยโทรศัพท์ไปด้วย) ผัดกระเทียมซักครู่จึงใส่ก้านคะน้าลงไป

– เติมน้ำซุปลงไปเล็กน้อย จึงใส่ใบคะน้าส่วนที่เหลือลงไป ผัดให้เข้ากัน

– ใส่พริกขี้หนูลงไป ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย (ถ้าปลาของใครไม่เค็มมากจะใส่ซีอิ้วขาวลงไปก็ได้ แต่ปลาของเราเค็มมากเลยไม่ต้องใส่ )

– ผัดให้เข้ากัน ซักครู่ปิดไฟ

– ตักคะน้าปลาเค็มใส่จาน ยกเสิร์ฟกับข้าวต้มร้อนๆ ได้เลยค่ะ

นี่แหล่ะค่ะเมนูคะน้าปลาเค็ม ที่ว่าง่ายๆ ของเรา แต่อร่อยล้ำเลิศ

การัณตรีความอร่อยด้วยแผนกคิวซีของบ้าน อิอิ