แกงจืด

ห่างหายจากการทำอาหารไปซะหลายวัน พอกลับมาก็ประเดิมด้วย แกงจืดไข่เจียว ซะเลย ช่างโก้ซะจริงๆ 555 ความจริงแล้วก็คือในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือแล้วค่ะ เพราะเราเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่กันค่ะ เลยไม่ได้ซื้ออะไรมาตุนไว้ และก็พยายามเคลียร์ของในตู้เย็นด้วย เพราะรอบนี้ก็คงจะไปหลายวันเหมือนกันค่ะ ในตู้เย็นตอนนี้มีแค่ไข่ไก่ กับหมู และก็มีแครอทเหลือแค่ครึ่งหัวเอง วันนี้เราเลยทำหมูทอดกระเทียม และแกงจืดไข่เจียวทานกันในมื้อเช้าตอนสายๆ ค่ะ เพราะเดี๋ยวบ่ายๆ เราก็จะออกไปหาซื้อของฝากเพื่อจะเอากลับบ้านในวันพรุ่งนี้ ตอนแรกว่าจะไม่เอามาอัพลงเวปแล้วล่ะ เพราะมันทำง่ายเกิ๊นอายชาวบ้านเค้า แต่พอมานึกอีกที นี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่ได้ทำอาหารมาขึ้นเวปเลย กลัวเพื่อนๆ จะคิดว่าปิดเวปหนีตามเด็กๆ ไปซะล่ะมั๊ง ก็เลยเอามาอัพแค่ขำๆ กันไปก่อนก็แล้วกัน เอาไว้กลับมาจากบ้านหลังสงกรานต์ค่อยจัดหนักกันอีกที 555 ตอนนี้เรามาเข้าครัวทำ แกงจืดไข่เจียว ทานกันเลยดีกว่าค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม ไข่ไก่ 3 ฟอง แครอท 1/2…

แถวบ้านเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเที่ยวอยู่หลายแ่ห่ง  เราก็ไปมาเกือบหมดแล้วแต่ก็มีอยู่ที่หนึ่งที่เราไม่กล้าไป นั่นก็คือถ้ำเมืองออน ซึ่งเราจะคิดอยู่ตลอดว่าถ้ำเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ไม่กล้าไปกันตามลำพังกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ความจริงเป็นที่ที่อยากจะไปมากที่สุด เพราะเคยได้ยินเสียงเล่าลือกันมานานมากแล้ว ว่าบนยอดเขาจุดที่สูงสุดของถ้ำจะเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าทันใจ หากใครที่มีปัญหามีบุตรยากเค้าจะขึ้นไปอธิฐานขอพรจากท่าน ซึ่งก็จะได้เกือบทุกราย (ถ้าสามารถปีนขึ้นไปถึง ส่วนใหญ่ไปไม่ถึงครึ่งทางก็จะท้อแล้ว) พอดีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพี่สาวได้พาเด็กๆ มาเที่ยวที่บ้าน เราก็เลยถือเอาโอกาสนี้ชวนเค้าและเด็กๆ ไปเที่ยวชมถ้ำกัน (เพราะหลายคนน่าจะปลอดภัยดีกว่า โอกาสเป็นของเราแล้ววันนี้ ฮ่าฮ่า) แต่พอไปถึงจุดที่เป็นถ้ำเราพึ่งรู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตรงลานจอดรถก็มีผู้คนและร้านค้า ตรงปากถ้ำก็จะมีไกด์และจุดให้เช่าไฟฉาย ตอนเข้าไปสำรวจถ้ำเราก็เลือกจะให้ไกด์นำทางไป ภายในถ้ำกว้างมากสามารถจุคนได้ประมาณสี่พันกว่าคน ปกติในช่วงเทศกาลมีวันหยุดยาว ที่ถ้ำแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เราโดนไกด์แซวเรื่องที่ว่าบ้านอยู่ใกล้นิดเดียว แต่พึ่งเคยมาเที่ยวเป็นครั้งแรก (ก็คนมันป๊อดนี่นา ฮ่าฮ่า) พอออกจากถ้ำเราก็บอกไกด์ว่าเราอยากจะขึ้นไปกราบสักการะพระเจ้าทันใจ ไกด์รีบถามทันทีว่าพี่จะขึ้นไปไหวเหรอ เพราะน้อยคนนักจะขึ้นไปได้  ส่วนพี่ๆ เค้าขอตัวไปนั่งพักที่ร้านค้าแทน เราเลยดั้นด้นขึ้นไปจนได้ แต่ก็เกือบจะขาดใจกลางทางแล้วเหมือนกัน อากาศก็ร้อนมากด้วย แถมทางขึ้นก็ชันจนเหนื่อยแทบขาดใจ เราคิดว่าเราไม่เคยทำอะไรที่รู้สึกว่าลำบากที่สุดในชีวิต…

กลับมาแล้วค่ะ กลับมาถึงบ้านเมื่อวานตอนเย็น ออกเดินทางตั้งแต่เช้ากว่าจะถึงบ้านก็เย็นย่ำพอดีเลยค่ะ แวะโน่นแวะนี่ตลอดทาง กลับมาถึงบ้านต้นไม้ใบหญ้าเหี่ยวเฉาเหงาหงอยซะน่าสงสารเลย ไหนจะขาดน้ำไหนจะความรักจากเจ้าของ 555 เลยรีบรดน้ำซะฉ่ำให้สมกับที่รักและคิดถึงกัน (รักไม่รัก พอจอดรถปุ๊บรดน้ำต้นไม้ปั๊บ ข้าวของบนรถปล่อยทิ้งไว้ก่อน รดน้ำเสร็จถึงจะมาขนของออกจากรถ) กว่าภาระกิจจะเสร็จสิ้น แบ็ตเตอรี่ก็หมดพอดี ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหุงหาอาหารกินกัน เลยต้องรื้อขนมนมเนยที่ติดรถมานั่นแหล่ะ กินรองท้องก่อนอาบน้ำเข้านอน เมื่อหัวถึงหมอนก็เข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที หลับรวดเดียวถึงเช้า (จริงๆ ก็ไม่เช้าหรอกค่ะน่าจะสิบโมงกว่าๆ เห็นจะได้ อิอิ) วันนี้เลยเริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำพริกไข่เค็มแสนอร่อยซะเลย เมนูไข่เค็มของวันนี้ก็มาจาก ไข่เค็มที่เหลือจากการทำยำไข่เค็มเมื่อวันก่อนนั่นเองค่ะ่ อารมณ์อยากกินผักกินหญ้าอะไรประมาณนั้น เราซัดน้ำพริกคนเดียวซะชนิดที่เรียกว่าแทบไม่แตะข้าวเลย มาค่ะมาเข้าครัวตำ น้ำพริกไข่เค็ม ทานด้วยกันดีกว่าค่่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม ไข่เค็มต้มสุก 2 ฟอง กุ้งแห้ง(กุ้งเนื้อ)  7-8 ตัว พริกขี้หนู 10…