สารสกัดจากงาดำ

  1. ช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์

สำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานงาดำสามารถลดอาการปวดได้ เนื่องจากในงาดำประกอบไปด้วยธาตุทองแดงที่มีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ทำให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้พบว่าธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนดังกล่าวมีความสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ กระดูกอ่อน ข้อต่อ และหลอดเลือดให้มีความแข็งแรง

  1. ช่วยบำรุงกระดูก และผิวพรรณ

“งาดำ” ขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีธาตุสังกะสีที่ช่วยเพิ่มมวลกระดูก และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก จึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน ในขณะที่วิตามิน E ที่มีอยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น เมื่อรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่าผิวพรรณดี กระดูกจะแข็งแรง และห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลยทีเดียว

  1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

สารเซซามิน(Sesame ) และสานเซซาโมลีน เป็นไฟเบอร์ในกลุ่ม Lignans(ลิกแนน) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งสารชนิดดังกล่าวเป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้แล้วในงาดำก็ยังอุดมไปด้วย Phytosterols(สารไฟโตสเตอรอล) ซึ่งมึโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ยิ่งรับประทานก็จะยิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ อีกด้วย

  1. ช่วยบำรุงหัวใจ

เนื่องจากงาดำมีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด

  1. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

สารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidants) ที่อัดแน่นอยู่เต็มเมล็ดงาดำ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารต้านมะเร็งที่ทรงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งลำไส้ เนื่องจากไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้สารเซซามินที่มีอยู่ในงาดำนั้นยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายตับและเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง อย่างไรก็ตามหากรับประทานงาดำมากจนเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอดีถึงจะเกิดผลดีที่สุดค่ะ

  1. ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย

แม้จะเป็นเพียงแค่ธัญพืชเมล็ดเล็กๆ แต่ในงาดำยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานงาดำเป็นประจำ จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หมดกังวลเรื่องท้องผูกไปได้เลย ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะแล้วจะรู้ว่าชีวิตมันง่ายขึ้น

  1. ช่วยบรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)

กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาใหญ่ของคุณสาวๆ หลายคน เนื่องจากทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามถ้าต้องการจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะในงาดำอุดมไปด้วยวิตามิน B แมกนีเซียม แคลเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่างๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลยค่ะ

  1. ช่วยบำรุงเส้นผม แก้ผมร่วง

งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันชนิดดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า(Omega) 3,6,9 ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมมีความชุ่มชื้น และมีสุขภาพดี หากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะ ทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ทำให้เส้นผมไม่หลุดร่วงง่ายและยังทำให้เส้นผมดกดำเงางามขึ้นอีกด้วย

  1. ช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

แมกนีเซียมและแคลเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญในการช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ Tryptophan (ทริปโตเฟน) ซึ่งเป็นกรดอะมิโน(Amino Acid) ที่มีอยู่ในงาดำยังช่วยในการเสริมสร้างทำงานของเซโรโทนิน(Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

  1. บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำ สามารถช่วยชะลอและป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ได้ โดยจากการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มผู้สูงวัย รับประทานสารสกัดจากงาดำชนิดแคปซูล ปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านการเรียนรู้และความจำที่ดีขึ้น

  1. ช่วยบำรุงสายตา

ในทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็ส่งผลให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อโยชน์ทางด้านบำรุงสายตาและตับไปพร้อมๆ กัน เมื่อตับมีสุขภาพดี ดวงตาก็จะชุ่มชื้นและใสปิ๊ง หมดปัญหาสุขภาพตาไปได้เลย

ข้าวยีสต์แดง
11 ประโยชน์ของงาดำ คุณค่าล้นเมล็ด ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ