สรรพคุณผักรสขม

“หวานเป็นลม ขมเป็นยา” สุภาษิตโบราณที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ความหมายตามพจนานุกรมหมายถึง คำชมมักไร้สาระทำให้ลืมตัวขาดสติ แต่คำติมักเป็นประโยชน์ทำให้ได้คิด เช่นเดียวกันอาหารบางชนิดแม้รสชาติหวานจนน่าติดใจแต่ก็อาจจะนำมาซึ่งโทษและภัยสารพัด วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ผักรสขม 4 ชนิด ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย 1. สะเดา ทุกส่วนของสะเดามีคุณสมบัติเป็นยาได้  เพราะผักรสขมอย่างสะเดามีประโยชน์ช่วยบำรุงเลือด ช่วยเจริญอาหาร เป็นยาระบาย ช่วยให้นอนหลับดี และช่วยรักษาอาการไข้ เรานิยมนำยอดและดอกมาทำอาหาร ซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการเช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอาซิน 2. ขี้เหล็ก ดอกตูมและใบอ่อนของขี้เหล็กมีรสชาติขม ถือเป็นยานอนหลับชั้นดี…

“ข้าวยีสต์แดง” Red Yeast Rice – เคล็ดลับการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาตะวันออก ลดปัญหาไขมันในเลือดสูง โคเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขข้อเสื่อม

คอเลสเตอรอลสูง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด เนื่องจากปกติภายในหลอดเลือดจะมีผิวที่เรียบลื่นสม่ำเสมอ แต่เมื่อมีคอเลสเตอรอลมาจับบริเวณผนังหลอดเลือดจนพอกหนาเป็นตะกรันไขมัน (plague) การสะสมของตะกรันไขมันจะทำให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบลง ด้วยเหตุนี้เองทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อดันให้เลือดสามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้ ตะกรันไขมันจะขวางกั้นระบบไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมองหรือหัวใจทำให้อวัยวะขาดเลือด เกิดภาวะหลอดเลือดในสมองตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจวายได้ ข้าวยีสต์แดง (Red Yeast Rice) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Ang-kak (อังคัก) นิยมใช้เป็นยาแผนโบราณในประเทศจีนมานานนับพันปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (AD. 1368-1644) มีสรรพคุณในการบำรุงระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แก้ฟกช้ำ ในปี 1979 ศ.อากิระ เอนโด จากประเทศญี่ปุ่น ได้ค้นพบสาร Monacolin K ในข้าวยีสต์แดง (Red Yeast Rice) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดไขมัน Red Yeast…