เคล็ดลับการต้มเนื้อให้นุ่มและมีกลิ่นหอม

การปรุงเนื้อให้นุ่มมีอยู่หลายวิธี ในโรงงานขายเนื้อมีวิธีเก็บเนื้อให้นุ่มโดยจะใช้วิธีแขวนเนื้อไว้ในที่เย็น อุณหภูมิประมาณ 35 องศาฟาเรนไฮด์ แขวนไว้ประมาณ 2-3 อาทิตย์เนื้อก็จะนุ่ม การบดการทุบเนื้อก่อนที่จะสับก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เนื้อขาดจากกัน การใช้เกลือหมักก็จะทำให้เนื้อนุ่มได้เช่นกัน แต่ที่นิยมกันมากก็คือ ก่อนต้มเนื้อให้นำเนื้อที่เตรียมไว้มาคลุกกับน้ำสับประรดแล้วหมักทิ้งไว้ 20-30 นาทีก่อนจึงจะนำไปต้ม ถ้าเป็นการย่าง ให้นำเนื้อที่เตรียวไว้ไปคลุกด้วยยางมะละกอจากนั้นหมักไว้สักพักหนึ่งจึงนำไปย่าง หรือจะใช้ใบมะละกอห่อเนื้อแล้วย่าง ยางของใบมะละกอก็จะซึมเข้าไปในเนื้อ จะทำให้เนื้อเปื่อยเร็วขึ้น การต้มเนื้อให้มีกลิ่นหอมดับกลิ่นคาวของเนื้อ ให้ใช้รากผักชีพริกไทยบุบพอแตก ใส่เกลือป่นเล็กน้อยลงไปในหม้อต้มเนื้อขณะที่กำลังเดือดจึงใส่เนื้อตามลงไป ลดไฟเคี่ยว ปิดฝา ตั้งไฟอ่นเคี่ยวให้เนื้อเปื่อย คอยหมั่นช้อนฟองทิ้ง ถ้าจะใส่เครื่องเทศ เช่นกานพลู โป๊ยกั้ก ให้นำไปคั่วไฟให้หอมเสียก่อนจึสงใส่ลงไป เมื่อเนื้อเปื่อยดีแล้วให้ตักเครื่องเทศออก ถ้าให้สะดวกก่อนใส่เครื่องเทศให้นำผ้าขาวบางมาห่อเครื่องเทศ ผูกด้วยเชือกให้แน่น เวลาตักออกจะได้สะดวกขึ้น  

วิธีปรุงอาหารประเภทปลาและกุ้งไม่ให้เหม็นคาว

การปรุงอาหารที่มีกุ้งและปลาเป็นส่วนผสม มักจะเจอปัญหาคือมีกลิ่นเหม็นคาวของปลาและกุ้ง ปลาทุกชนิดมีไขมันอยู่ไม่เท่ากัน ปลาที่มีไขมันสูงจะมีกลิ่นคาวจัด เช่น ปลาสวาย มีไขมันสูงถึงร้อยละ 5 ปลาช่อนมีไขมันร้อยละ 2 ส่วนกุ้งบริเวณที่เหม็นคาวคือส่วนหัว การปรุงอาหารจึงต้องเด็ดหัวกุ้งออก กลิ่นคาวจะน้อยลง การปรุงอาหารที่ถูกต้องก็สามารถช่วยได้ เช่น ถ้าเรานำกุ้งหรือปลาไปผัดหรือต้มยำควรใช้ไฟแรง เวลาผัดให้ผัดเร็วๆ ส่วนต้มหรือต้มยำ จะต้องให้น้ำเดือดพล่านก่อน จึงใส่ปลาหรือกุ้ง ห้ามใช้ช้อนคน รีบปิดฝาปล่อยให้เดือด กลิ่นคาวก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย การต้มปลา ถ้าต้องการให้ปลามีเนื้อขาวน่ารับประทาน ให้ใส่น้ำส้มสายชูหรือมะนาวเพียงเล็กน้อยลงในน้ำต้ม เนื้อปลาก็จะมีสีขาวตามต้องการ การทอดปลาไม่ให้มีกลิ่นคาวก็เช่นกัน ต้องทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด เพื่อป้องกันในน้ำเดือดไฟแรง เป็นการป้องกันกลิ่นคาว ปลานึ่งควรวางตะแกรงรองลังถึงก่อนใส่ปลา วางน้ำส้มสายชูและเกลืออย่างละ 1 ช้อนชาที่ตัวปลาก่อนนึ่งไฟแรงเช่นกัน  

วิธีเลือกซื้อเนื้อไก่ และเป็ด

เนื้อไก่จะมีคุณค่าทางอาหารเท่ากับเนื้อสัตว์อื่นๆ เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก เพราะนอกจากเป็นแหล่งโปรตีนแล้ว ยังมีเกลือแร่ปริมาณไขมันต่ำ เนื้อส่วนออกจะมีวิตามินบี1 สูง การเลือกซื้อไก่ ควรเลือกซื้อตัวอ้วนและสด โดยใช้มือกดตรงหน้าอกจะนูนแน่นเป็นสีชมพู บางเจ้าเป่าลมไว้ถ้าเอามือกดจะแฟบทันทีและต้องดูว่าเป็นไก่แก่หรือไก่อ่อน ถ้าเป็นไก่แก่ จะพบว่าปลายเล็บมนหนังใต้อุ้งเท้าจะหนาและแข็ง เดือยจะยาว ไก่อ่อน เล็บจะแหลม หนังใต้อุ้งเท้าจะบาง เดือยสั้น ถ้าเป็นไก่สาวจะไม่มีเดือย ไก่ที่สมบูรณ์หน้าอกจะหนาและนุ่ม หนังสดใส ไม่เหี่ยวย่น ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีรอยจ้ำๆ ตามลำตัว สำหรับไก่ควรกินไก่อ่อน สำหรับเป็ดควรกินอายุขนาดกลาง ถ้าเป็ดอ่อนจะมีขนอ่อนมาก เป็นส่วนใหญ่จะขายทั้งตัวไม่นิยมตัดแยกออกเป็นส่วนๆ เหมือนไก่ ในปัจจุบันผู้ขายมักจะแยกชิ้นส่วนออกเป็นปีกไก่ อก น่อง กระดูก เท้า การเลือกซื้อเป็ดควรเลือกซื้อปากและตีนสีเหลือง ถ้าเป็ดแก่ ตีนจะเป็นสีดำ เนื้อจะเหนียวและมีกลิ่นเหม็นสาบ ไม่ควรนำมารับประทาน