– ช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก ในปี 1999 จากผลการวิจัยจากออสเตรเลียพบว่า การบริโภคเนื้อปลาที่มีโอเมก้า3 สูง เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอล จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลดียิ่งขึ้น

– ช่วยบำรุงสมอง จากผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่า กรดไขมันดีเอชเอ (DHA) ในโอเมก้า3 มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับความจำและการเรียนรู้

– ช่วยลดความเครียด Archives of General Psychiatry จากการวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันปลา พบว่าสามารถลดระดับความเครียดในผู้ป่วยโรคประสาท ที่มีอารมณ์รุนแรง ทำให้มีอารมณ์ที่เยือกเย็นลงได้

– ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพบว่า การขาดโอเมก้า3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อสมอง อาจเป็นสาเหตุทำให้คนเกิดอาการซึมเศร้า สมาธิสั้น และขาดความสามารถในการอ่านหนังสือได้

– ช่วยบรรเทาอาการของโรคไขข้ออักเสบ จากผลการวิจัยในช่วง10 ปีที่ผ่านมา ได้พบว่า น้ำมันปลาช่วยบรรเทาอาการ ของผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้ออักเสบ ทำให้สามารถลดปริมาณการใช้ยาบางส่วนลงไปได้

– ช่วยลดการอักเสบของโรคผิวหนัง จากการศึกษาวิจัยได้ระบุว่า การบริโภทปลาที่มีไขมันมาก จะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนัง อย่างสะเก็ดเงิน (เรื้อนกวาง) เพราะเนื้อปลามีวิตามินดีจากกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่มากนั่นเอง

– ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ จากการวิจัยในปี 1998 ได้พบว่า การบริโภคปลาอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความดันโลหิต ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจลดลงได้ นอกจากนั้น จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอเรกอนยังระบุอีกว่า ในไขมันปลามีกรดไขมันอีพีเอ (EPA) ซึ่งเป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า3 ยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ลงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ของโรคหลอดเลือดหัวใจด้วยเช่นกัน

ข้าวยีสต์แดง
ประโยชน์โปรตีนจากเนื้อปลา