โอ๊ยยยยย… จะลงแดงตายอยู่แล้วไม่ได้เข้าครัวทำอาหารมาหลายวัน ที่ผ่านมาก็ดับความอยากด้วยการเอาไฟล์รูปเก่าๆ มารีวิวให้เพื่อนๆ ดูกัน พอกลับมาถึงบ้านตัวเองแล้วก็กระดี้กระด้านึกว่าจะได้ลงครัวซะที แต่ที่ไหนได้เราลืมไปว่าเรานัดช่างมาทุบมารื้อต่อเติมบ้าน ทุบอะไรไม่ทุบดันมาทุบผนังห้องเก็บของที่อยู่ติดกับห้องครัว (กะเตรียมทำห้องเพิ่มไว้รับแขกในช่วงหน้าหนาวนี้ ใครอยากมาเที่ยวเชียงใหม่โทรมาจองล่วงหน้าได้นะคะ ฟรี ฮ่าฮ่า)  ฝุ่นงี้คละคุ้งเต็มไปหมด ดีนะที่หาผ้าหาอะไรมาปิดไว้หมดแล้ว เครื่องปรุงที่สำคัญๆ ก็ขนเอาออกไปไว้ด้านนอกจนหมด (อย่างอื่นไม่สนใจ สนใจแต่เรื่องของกิน ฮ่าฮ่า) แต่สุดท้ายความอยากความดื้อด้านก็ชนะจนได้ ยายแม่ครัวตัวดีก็คว้าเตาแก๊สปิกนิค พร้อมเสื่อหนึ่งผืนวิ่งไปสวนหลังบ้าน  (ดูความพยายามของชีซิคะ ว่ามีมากขนาดไหน หุหุ) เดินเทียวไปเทียวมาหลายรอบเพื่อขนอาวุธสำคัญๆ (ความพยายามยังสูงอีกแ่ต่ก็ลิ้นห้อยเหมือนกัน) สุดท้ายก็ได้เมนูเด่นของวันนี้มาฝากเพื่อนๆ ทำอาหารไปก็ได้รำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยเป็นเด็กๆ เวลาไปเข้าค่ายลูกเสือยุวกาชาด (โน่นนึกไปถึงสมัยยังเป็นละอ่อนน้อยโน่น) แ่ต่ก็ดีกว่าตอนนั้นหน่อยตรงที่ไม่ต้องมานั่งก่อไฟเอง ที่สมัยนี้เราแอบมีเตาปิกนิคคู่ใจเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน นาทีนี้ใครมาขโมยเตาแก๊สอันนี้ไป มาเอาชีวิตชั้นซะจะยังดีกว่า ฮ่าฮ่า มาค่ะมาแอบดูกันว่าลูกเสือสำรองจอมซ่าจะทำถั่วลันเตาผัดกุ้งได้น่าทานมั๊ยเอ่ย

สิ่งที่ต้องเตรียม
ถั่วลันเตา300 กรัม (ซื้อมาแค่ 10 บาทเอง)
กุ้งสด 170 กรัม (ประมาณ 6 ตัว)
แครอทหั่น 1/3 หัว
พริกหวานเขียวเหลือง 1/4 ลูก
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
ซีิ้อิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำถั่วลันเตาผัดกุ้ง
– ก่อนอื่นต้องนำถั่วลันเตามาล้างน้ำให้สะอาด เด็ดหัวเด็ดท้ายทิ้ง แครอทก็ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นๆ ส่วนพริกหวานก็หั่นเป็นเสี้ยวๆ เตรียมไว้ (ใครมีผักอะไรในครัวก็ใส่ๆ ลงไปได้หมดเลยค่ะ ตามชอบ พอดีในครัวเรามีของอยู่แค่นี้เลยต้องใช้แค่นี้)
– ต่อไปก็นำกุ้งมาแกะเปลือกออก ตัดหัวไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ล้างน้ำให้สะอาดซับน้ำให้หมาดเตรียมไว้ (ใครชอบแบบคลุกแป้งมันซักหน่อยก็ทำได้นะคะ)
– ทีนี้ก็นำกระทะใส่น้ำมันยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม ใส่กุ้งตามลงไปผัด

– ผัดซักครู่ใส่แครอท พริกหวาน และถั่วลันเตาตามลงไป เติมน้ำซุปเล็กน้อย

– ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ (เราเป็นคนชอบเผ็ดเลยแอบใส่พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบบางๆ ลงไปด้วยเพื่อจะได้มีรสเผ็ดหน่อยๆ จะได้เจริญอาหารมากขึ้น อิอิ)

– ผัดซักครู่ไม่ต้องผัดนานเดี่ยวผักจะเหี่ยวไม่หวานกรอบ ปิดไฟ ตักใส่จานยกเสิร์ฟร้อนๆ กับปลาสลิดทอด แค่นี้ก็รอดตายไปอีกมื้อแล้วค่ะ

พอได้ทำอาหารก็สามารถช่วยบำบัดความบ้าคลั่งลงไปได้เยอะเลย ไม่งั้นคนแถวนี้คงไ้ด้วิ่งหลบระเบิดกันบ้างล่ะ 555

 

ข้าวยีสต์แดง
ถั่วลันเตาผัดกุ้ง