วันนี้โชคดีที่สุดเลยได้กินแกงสะแลด้วย  อาหารเหนือแบบนี้แหละที่เป็นของโปรดของเรา คนเหนือเค้าจะเรียกแกงสะแลว่า แ๋ก๋งดอกสะแล (กำกิ๋นเมืองๆ จะอี้ลำแต้ๆ เจ้า)  ปกติปีนึงๆ จะได้กินแกงดอกสะแลเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่ปีนี้จนจะหมดหนาวอยู่แล้วก็พึ่งจะได้กินแกงสะแลก็วันนี้แหละ นึกว่าจะไม่ได้กินซะแล้ว พอดีไปเดินตลาดเย็นซึ่งปกติเราไม่ค่อยได้ออกไปเดิน นานๆ ถึงจะไปเดินทีนึง พอไปวันนี้เห็นแม่ค้าเอาดอกสะแลใส่เป็นจานๆ วางขายอยู่ประมาณ 4 จาน เรารีบตรงดิ่งไปหาเลย (กลัวจะโดนคนอื่นตัดหน้าแแย่งซื้อ) เราเหมาซื้อทั้งหมด 4 จาน พอจะเดินออกมาเราก็เห็นแม่ค้างัดเอาออกมาอีกตั้งถุงใหญ่เบ้อเร่ิอ (เราก็เกิดอาการแปลกใจเมื่อกี้ทำไมไม่บอกเราว่ายังมีเหลืออยู่อีก หรือกลัวว่าเราจะเหมาหมด อิอิ) เรา็ก็เลยหันกลับไปซื้ออีก เราซื้อเพิ่มอีก 6 จาน  (เราจะเอาส่งไปให้พี่สาวที่ กทม. ด้วยแหละ เค้าก็ชอบเหมือนๆ กันกับเรา แต่เค้าหาซื้อเองไม่ได้) เราแบ่งเก็บไว้ทำแกงทานเองครึ่งหนึ่ง ที่เก็บไว้นี่ก็สามารถนำมาแกงได้ตั้ง 2 หม้อเลยทีเดียว มาค่ะเรามาลงมือทำแกงสะแลกันเลยดีกว่าค่ะ (ใครอยากทานต้องรอปีหน้านะคะ เดี๋ยวจะส่งดอกสะแลสดๆ ไปให้ถึงบ้านเลย อิอิ)

สิ่งที่ต้องเตรียม
ดอกสะแล 2 ถ้วย
กระดูกหมู 500 กรัม
มะเขือเทศ 4 ลูก
พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด
หอมแดง 3 หัว
กระเทียม 6-7 กลีบ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงสะแล
– ก่อนอื่นเราต้องนำดอกสะแลมาตัดล้างทำความสะอาด พักไว้ก่อน

นี่คือโฉมหน้าของช่อดอกสะแลที่เราเอามาให้ดูชัดๆ ค่ะ

– มะเขือเทศก็ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นเสี้ยวๆ เตรียมไว้

พอดีระหว่างที่รอต้มกระดูกทิ้งไว้ เราก็ออกไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน เห็นมะเขือเทศลูกเล็กหลังบ้านเริ่มจะสุก เลยเก็บติดมือเข้ามาเพื่อเอาใส่แกงสะแลด้วย (เลยเอารูปมาแทรกให้ดูเล่นๆ ค่ะ)

– น้ำพริกเครื่องแกงสำหรับทำแกงสะแล เราก็มาลงมือตำกันเลยค่ะ โดยนำพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง เกลือป่น และกะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด
– นำกระดูกหมูไปล้างน้ำ ใส่ลงไปในหม้อ ใส่น้ำพริกเครื่องแกงที่เราตำไว้ลงไป

– เทน้ำล้างครกใส่ตามลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หรือจนน้ำงวด

– ทีนี้ก็เติมน้ำเปล่าลงไป ใช้ไฟแรง รอจนน้ำในหม้อเดือดจัด ลดใช้ไฟกลาง ต้มทิ้งไว้จนกว่าเนื้อหมูจะนุ่ม

– พอหมูสุกนุ่มแล้ว ใส่ดอกสะแลลงไป ใช้ทัพพีกดเบาๆ ให้ดอกสะแลยุบตัว

– พอดอกสะแลสุก ใส่มะเขือลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา

– ตั้งทิ้งไว้ซักครู่้ก็ปิดไฟได้เลยค่ะ

– ตักแกงดอกสะแลใส่ถ้วย ยกเสิร์ฟร้อนๆ ได้เลยค่ะ

แกงดอกสะแลของโปรดของเรา แป๊บเดียวหายเข้าท้องราวกับเสกเลยทีเดียวค่ะ (เราชอบตักทานเปล่าๆ ข้าวไม่ต้อง แค่นี้ก็อิ่มอร่อยแล้วค่ะ)

ซูมให้ดูใกล้ๆ ค่ะ น่าตักข้าวปากซะจริงจริ้ง…

ข้าวยีสต์แดง
แกงสะแล