กลับมาแล้วค่ะ กลับมาถึงบ้านเมื่อวานตอนเย็น ออกเดินทางตั้งแต่เช้ากว่าจะถึงบ้านก็เย็นย่ำพอดีเลยค่ะ แวะโน่นแวะนี่ตลอดทาง กลับมาถึงบ้านต้นไม้ใบหญ้าเหี่ยวเฉาเหงาหงอยซะน่าสงสารเลย ไหนจะขาดน้ำไหนจะความรักจากเจ้าของ 555 เลยรีบรดน้ำซะฉ่ำให้สมกับที่รักและคิดถึงกัน (รักไม่รัก พอจอดรถปุ๊บรดน้ำต้นไม้ปั๊บ ข้าวของบนรถปล่อยทิ้งไว้ก่อน รดน้ำเสร็จถึงจะมาขนของออกจากรถ) กว่าภาระกิจจะเสร็จสิ้น แบ็ตเตอรี่ก็หมดพอดี ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหุงหาอาหารกินกัน เลยต้องรื้อขนมนมเนยที่ติดรถมานั่นแหล่ะ กินรองท้องก่อนอาบน้ำเข้านอน เมื่อหัวถึงหมอนก็เข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที หลับรวดเดียวถึงเช้า (จริงๆ ก็ไม่เช้าหรอกค่ะน่าจะสิบโมงกว่าๆ เห็นจะได้ อิอิ) วันนี้เลยเริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำพริกไข่เค็มแสนอร่อยซะเลย เมนูไข่เค็มของวันนี้ก็มาจาก ไข่เค็มที่เหลือจากการทำยำไข่เค็มเมื่อวันก่อนนั่นเองค่ะ่ อารมณ์อยากกินผักกินหญ้าอะไรประมาณนั้น เราซัดน้ำพริกคนเดียวซะชนิดที่เรียกว่าแทบไม่แตะข้าวเลย มาค่ะมาเข้าครัวตำ น้ำพริกไข่เค็ม ทานด้วยกันดีกว่าค่่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ไข่เค็มต้มสุก 2 ฟอง
กุ้งแห้ง(กุ้งเนื้อ)  7-8 ตัว
พริกขี้หนู 10 เม็ด
กระเทียมไทย 6 กลีบ
กะปิย่างไฟ 1/3 ช้อนโต๊ะ
มะเขือพวง 7-8 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา กะชิมเอาให้ถูกปากค่ะ
น้ำมะนาว กะเอาเองเหมือนกันค่ะวันนี้เราต้องการเน้นเปรี้ยวเลยใส่แบบไม่ได้ตวงเลย
น้ำต้มสุก

วิธีทำน้ำพริกไข่เค็ม
– ก่อนอื่นต้องนำไข่เค็มมาผ่า แยกเอาไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกันก่อน

– ทีนี้ก็นำกุ้งแห้งไปแช่น้ำอุ่นให้นิ่ม แล้วจึงนำมาโขลกให้ละเอียด

– ใส่พริกขี้หนู กระเทียม กะปิเผาไฟและน้ำตาลปี๊บ ตามลงไปโขลกให้เข้ากัน

– ต่อไปก็นำไข่ขาวมายีให้เป็นชิ้นเล็กใส่ลงไปในครกบดให้เข้ากัน (ถ้าใครชอบข้นๆ ก็ใส่ไข่ขาวลงไปหมดเลยก็ได้ ของเราใส่ไข่ขาวแค่ครึ่งเดียวเองค่ะ)

– ทีนี้ก็ใส่ไข่แดงลงไปได้เลย แค่ใช้สากกดเบาๆ ไข่แดงก็ละเอียดแล้วค่ะ

– ท้ายสุดก็ใส่มะเขือพวงลงไป ตำเบาๆ ให้มะเขือพวงแค่พอแตกก็พอ จากนั้นตักใส่ถ้วย

– เติมน้ำต้มสุกลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาวตามชอบ ชิมรสชาติให้ถูกปาก แค่นี้เราก็จะได้น้ำพริกไข่เค็มเอาไว้ทานกับผักสดๆ แล้วค่ะ (หากน้ำพริกข้นเกินไปก็เติมน้ำต้มสุกเพิ่มได้อีกค่ะ น้ำพริกจะได้เหลวๆ บ้าง แต่อย่าใส่เยอะเดี๋ยวน้ำพริกจะเหลวเกินไป จิ้มไม่ติดผักไม่รู้ด้วยนะคะ อิอิ)

– จัดเสิร์ฟน้ำพริกกับผักสดได้ตามชอบ เรา็ก็หาถั่วฝักยาวกับแครอทที่มีอยู่ในตู้เย็น ส่วนมะเขือกับมะระขี้นกเรา็ก็เก็บเอาจากสวนหลังบ้าน

ใครสนใจจะกินผักสดจิ้มกับน้ำพริกไข่เค็มกับเราบ้างคะ (ไม่อยากบอกเลยมะระขี้นกนี่ขมปี๋เลยล่ะ แต่มันมีประโยชน์เลยต้องฝืนใจกิน เค้าบอกว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา อิอิ ขมๆ จิ้มกับน้ำพริกเผ็ดๆ มันๆ ก็อร่อยไปอีกแบบนึงค่ะ)

เราใส่พริกขี้หนูก็เยอะแล้วนะ รสชาติยังเผ็ดได้ถึงใจมาก แต่ไหงหน้าตากลับดูจืดชะมัดเลย มองแทบไม่เห็นกากพริกเลยง่ะ สงสัยจะตำละเอียดเกินไปซะล่ะมั๊งนี่

 

ข้าวยีสต์แดง
น้ำพริกไข่เค็ม